เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง Ep.2 | พุงนิ่ม


ดู YouTube ได้ที่นี่จ้า





เช้าวันที่ 2 ที่โรงแรม CUBE - Boutique Capsule Hotel @ Chinatown
ตื่นสายนิดหน่อยจากเมื่อวานที่เหนื่อยมาก เดินขึ้นเขา (ไปดูสะพานเกลียว Henderson) ตอนเช้า ตอนเย็นเดินรอบ มาริน่าเบย์ กับ การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Marina Bay , Garden By The Bay)

อาหารเช้าของโรงแรมมี ชา กาแฟ นม ซีเรียลหวานและจืด ขนมปัง พร้อมที่ปิ้ง แยมต่างๆ แยมสตอเบอร์รี่ แยมคายา นูเทลล่า และมีหมี่ผัด กับอะไรผัดสักอย่าง ไม่รู้เหมือนกัน ก็นั่งกินได้เลยนะ 
ปล.กินนูเทลล่า กับ แยมคายาจนอิ่มเลย

อาหารเช้า นม ซีเรียส ขนมปังปิ้งพร้อมแยม และหมี่ผัด(มั้ง)

น้ำเปล่า น้ำชา กาแฟ (ใครจะกรอกน้ำใสขวด ขอได้ที่นี่)

ห้องเล็กๆ แต่ดูในภาพมันใหญ่จัง

บ้านเมืองสะอาด เพราะทิ้งขยะที อ๊วกแน่ๆ

นั่งรถเมล์ที่สิงคโปร์ สะดวกมาก (ชอบมากกว่านั่งรถไฟอีก แต่ต้องดู Google Map ช่วยนะ)
หลังจากท้องอิ่มก็ออกมาจากโรงแรม เพื่อไปวัดเจ้าแม่กวนอิมกันต่อโดยขึ้นรถเมล์ไปลงป้ายหน้าตลาด Bugis อีกทีนึง

วัดเจ้าแม่กวนอิม
วัดเจ้าแม่กวนอิม
เปิด 10.00-18.00
เข้าฟรี แต่ห้ามถ่ายรูป

วัดศรีกฤษณะ
เปิด 04.30-21.00
แต่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม

บริเวณรอบๆวัด จะเป็นตลาด ถนนคนเดิน Albert Steert ย่านบูกิส ขายดอกไม้ธูปเทียนเยอะมาก และขายของอย่างอื่นทั่วไป รวมถึงดูดวงด้วย อารมณ์ตลาดติดวัดบ้านเราล่ะ ซึ่งมีร้านค้าบางร้านที่จัดร้านจนผมเข้าผิด นึกว่าเป็นวัดเจ้าแม่กวนอิมเลย คือจัดได้อลังการมาก มีพระมีที่ไว้ อยู่หน้าร้านด้วย เข้าไปไหว้เรียบร้อยเลย เจ็บใจจิ้ดดดด

ร้านค้า ขายพระ ไม่ใช่วัดจ้า

วัดเจ้าแม่กวนอิม

วัดศรีกฤษณะ อยู่ใกล้ๆกับ วัดเจ้าแม่กวนอิม
วัดเจ้าแม่กวนอิม เป็นวัดเก่าแก่ของศาสนาพุทธ เชื้อสายจีน โดยเชื่อว่าจะให้พรที่ขอ สมหวัง ห้ามถ่ายรูปด้านใน แต่เราเข้าไปสักการะบูชา เจ้าแม่กวนอิมด้านในได้

วัดศรีกฤษณะ เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดนึง ของศาสนาฮินดู ซึ่งไม่อนุญาติให้เข้าไป แต่ด้านในมี เจ้าแม่กวนอิมด้วย (แต่ผมไม่เห็นนะ)

เดินกลับมาที่จุดลงรถเมล์ ก็จะเห็น Bugis Junction อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นตลาดขายของทั่วไป ของกิน เสื้อผ้า ก็คงประมาณ จตุจักร หรือตลาดใหญ่ๆ บ้านล่ะ มีของให้เลือกซื้อเยอะอยู่ เดินสบายๆได้เลยจ้า



Haji Lane


ตรอกฮาจิ เป็นถนนช้อปปิ้งเส้นเล็กๆ อยู่ติดกับ ถนนอาหรับ เป็นถนนช๊อปปิ้งที่มี ร้านค้า ร้านขายของ วัยรุ่นมากมาย เป็นสไตส์ที่ไม่เหมือนที่อื่นเท่าไหร่ และด้วยสีสันที่สดใสของร้านค้าเกือบทุกร้าน กราฟฟิติตามผนังบ้าน ทำให้สถานที่นี่เป็นจุดที่คนชอบไปถ่ายรูปกันเยอะมาก

สีสันสดใสมาก ที่ตรอกนี้

ร้านค้าแนวๆ สินค้าก็แนวๆ

แต่ล่ะตึก ก็จะมีหลายร้านในตึก ชั้นล่าง ก็ร้านนึง ชั้นบนอีกร้านนึง

ร้านๆกินน้ำมะนาว ชื่นใจ
เดินมาจนสุดอีกทางของถนน ก็จะเจอร้านคาเฟ่ และผับ รวมถึงกราฟฟิติ ที่มีคนชอบถ่ายรูปกันเยอะมาก
เดินจนสุดทางถนน Haji Lane ก็เดินอีกหน่อยที่ถนนข้างๆ Arab Street ซึ่งขายของที่เกี่ยวกับชาวมุสลิม และชาวอาหรับ อย่างเสื้อผ้า ผ้า พรม เป็นหลัก รวมถึง น้ำหอม เครื่องเทศ เครื่องหนัง ต่างๆด้วย

ถนนอาหรับ อยู่ติดกับ ฮาจิ แลนด์เลย

พารุหัดบ้านเราล่ะมั้งนี่

กราฟฟิติ สีสดตามกำแพง

มัสยิดสุลต่านแห่งสิงคโปร์

เปิด 9.30-12.00 และ 14.00-16.00
วันศุกร์ไม่เปิดช่วงเช้า

เป็นมัสยิดเก่าแก่และสำคัญมากของชาวมุสลิมสิงคโปร์ โดมสีทองขนาดใหญ่ เด่นมาก มองเห็นแต่ไกลดลย อยู่ติดกับถนนอาหรับ
ถึงแล้วจ้า มัสยิด เด่นมาก

ถนนหน้าด้านมัสยิด เป็นร้านขายของทั่วไป

อีกมุมนึงของมัสยิด

กราฟฟิติ ทั่วมีทั่วเลย ในย่านนี้


Berseh Food Centre

เป็นศูนย์อาหาร คล้ายๆ Maxwell แต่ก็ไม่ได้ชื่อดังอะไรขนาดนั้นนะ คือผ่านมาพอดี (เดินจากถนนอาหรับ ไปถนนคนเดินย่าน Little India เลยแวะกินอาหารที่นี่ล่ะไม่งั้นไปต่อไม่ไหว

เดินหิวๆ หาร้านอาหาร ก็มาเจอพอดี เลยแวะกินหน่อย

ข้าวหน้าเป็ด ดูดีมาก เลยสั่งมากิน แต่ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่

ข้าวหน้าเป็ด ไม่น่ากินเลยอ่า

น้ำแข็งไส ราคาถูก อร่อยดี 
Little India


ย่านลิตเติ้ลอินเดีย ตามชื่อเลย สีสรรสดมาก ตามแบบฉบับของชาวอินเดีย มีทั้งถนนคนเดิน ช้อปปิ้ง วัดฮินดู และ ห้างมุสตาฟา ที่ขายของถูก ขวัญใจของคนไทย

Mustafa เป็นห้างขายของถูก นักท่องเที่ยวชอบมาที่นี่มาเพราะของถูก (ถูกกว่าที่อื่นเล็กน้อย) เปิด 24 ชั่วโมง มีเกือบทุกอย่างเลยมั้ง
*ใครจะซื้อ เช็คราคากับของไทยก่อนก็ดีนะ

ถนน Little India สีสดใสมาก ทั้งตึก ทั้ง ถนนเลย

เดินข้ามถนนหน่อย
บริเวณนี้ ก็จะมีตลาด Tekka Centre มีประมาณ 3ชั้น ชั้นล่างเป็นโซนขายอาหารสไตส์แขก (อยู่ถนนอินเดียก็ขายอาหารอินเดียล่ะ) โซนขายของสดที่ใหญ่มาก และโซนเสื้อผ้าอินเดีย 

Buffalo Road ติดกับตลาด Tekka Centre เมื่อก่อนเป็นที่ซื้อขายวัวควาย เลยได้ชื่อนี้ไป ตอนนี้ขายของเต็มไปหมด หลักๆก็เป็น ผลไม้ ผัก เครื่องเทศต่างๆ ขนม ของฝากแบบอินเดีย

ตรงนี้แบตกล้องหมด เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้

กลับไปชาร์ตแบตที่โรงแรม และนั่งพักแปปนึง ก่อนที่จะไป Garden By The Bay อีกรอบ ตามแผนเดิมที่วางไว้ 

นั่งรถไฟ MRT ไปลงที่สถานี Bayfront แล้วเดินใต้ดินไปโผล่ที่ Garden By The Bay ได้เลย ไม่เหนื่อย สบายกว่าเยอะ

แต่ก่อนไป Garden By The Bay ขอแวะเดินเล่นใน Marina Bay Sand แบบนึง เห็นมีเรือพายในห้างด้วย 
เย็นสบาย ไม่อยากไปไหนต่อเลย

ภายใน Marina Bay Sand

มีเรือพายในห้างด้วย
เมื่อเดินออกจากใต้ดินที่สถานี Bayfront แล้ว ก็จะเจอน้ำพุ ที่มีแมลงปอเหล็ก และวิว Super Tree อยู่ด้านหลัง เป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตจริงๆ

แถมยังมีสะพานข้ามไปดู จุดที่แสดง โชว์ต้นไม้ตอนเย็นได้เลย (ใครมา ต้องมาลงที่สถานี Bayfront เท่านั้นนะ ไม่งั้นเหนื่อยยยยย)
มุมยอดฮิต แต่ก็น่าฮิตจริงๆล่ะ

จากตรงนี้ มองเห็น Singapore Flyer ด้วยล่ะ 

Super Tree จะมี 2 ชุด ชุดเล็ก 3 ต้น ไม่มีการแสดง อยู่ใกล้ๆ โดม กับชุดใหญ่ 12 ต้น สำหรับโชว์

ต้นไทร มั้ง ต้นใหญ่มาก
สำหรับการเข้าโดมของ Garden By The Bay จะมี 2 โดมคือ Conservatory Flower Dome และ Conservatory Cloud Forest

 Conservatory Flower Dome จะเป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่ เปิดแอร์เย็นสบาย เน้นต้นไม้ดอกไม้ที่ชอบอากาศ แห้งๆ เย็นๆ มีดอกไม้เยอะมาก

A เข้ามาแล้วไม่อยากออกเลยล่ะ
B ดอกไม้สวย?
A เปล่า อากาศเย็น ตึงเป๊ะ

ล้อเล่นนะครับ ก็ด้านในสวยจริง ใครชอบต้นไม้คงอยู่ได้ทั้งวันเลยล่ะ เดินจนเมื่อยเลย

ต้นไม้หลายชนิด เต็มเลย

มีพวกรูปปั้นสวยๆด้วย

จุดนึงที่คนชอบถ่าย หุ่น 3 คนในป่า

โดมดอกไม้

ด้านหลังเป็นจุดถ่ายรูป ที่นั่งล้อมด้วยดอกไม้ คนต่อคิวถ่ายรูปเยอะมาก ขี้เกียจรอ

เสร็จจากโดมแรก ก็มาโดมป่าดิบชื้น Cloud Forest ที่โดมนี้ชื้นมาก เพราะมีน้ำตกอยู่ตรงกลางโดมเลย น้ำตกจำลอง สง 35 เมตร ทำให้เกิดละอองน้ำเยอะมาก จนในนี้ชื้นมาก

เราสามารถขึ้นลิฟท์ไปด้านบน ไปอยู่ในน้ำตกจำลองได้ด้วย แต่คนเยอะมาก รอคิวน่าจะนานเกิน ผมเลยไม่ได้ขึ้นไป เพราะต้องไปที่อื่นต่อนี่ล่ะ

ใครชอบต้นไม้ที่ชอบที่ชื้นจัดๆ พวกเฟิร์น พวกกล้วยไม้ ต้นไม้ในป่าดิบชื้น หรือต้นไม้ที่ขึ้นตามริมน้ำ ก็ที่นี่เลย ผมชอบที่นี่มากกว่าอีก โดมนะ แต่หมวยบอกว่ามันเหนียวตัวไปหมด เพราะชื้นเกิน

น้ำตกจำลอง สูง ใหญ่ และเย็นมาก (ละอองน้ำเต็มเลย)

พืชตระกูลเฟริ์น และพืชชอบที่ชุ่มชื้น

มอสเต็มเลย

จุดรวมกล้วยไม้ ในโดมป่าดิบชื้น
เมื่อออกมาข้างนอก ก็มารอ Super Tree เปิดไฟ แล้วรอดูการแสดงโชว์ Garden Rhapsody ก็ถ่ายให้ดูว่าใหญ่แค่ไหน ที่จริงจะมีจุดที่เราสามารถไปถ่ายรูปข้างๆ Super Tree ได้ด้วย

Super Tree ใหญ่มาก  ถ่ายรูปยาก เพราะมันสูง

ขึ้นมาด้านบน ก่อนถึงจุด World of Palms จะมีมุมที่มองเห็น Super Tree พอดี
หลังจากดู Garden Rhapsody อีกรอบนึงแล้ว ก็เดินกลับไปที่ Marina Bay Sand อีกครั้ง ที่เดิม ศูนย์อาหารชั้นใต้ดินของที่นี่ เพื่อไปหาอะไรกินอีกรอบนึง

โรตีจ้า

ชานมไข่มุก
กินแค่อย่างเดียวเพราะหมวยไม่หิวอ่ะ
โรตี มีข้าวเหลือง นาน และก็แกง 4สี
ข้าวเหลือง เฉยๆนะ แต่นานอร่อยมาก เขาทำสด คือพอเราสั่งปั๊ป เขาก็เอาแป้งที่หมัก ไปแปะที่เตาอบทันที ร้อน หอม อร่อยมาก แล้วก็แกง 4 สี ถ้าจำไม่ผิด แกงเผ็ดๆ 1อัน แกงถั่ว 1 อัน แกงกะหรี่ไก่ 1 อัน แกงระบุไม่ได้ อีก 1 อัน

แล้วก็เดินตามเมื่อวานเลย เพราะว่าหมวยอยากได้รูปสวยๆหน่อย (เมื่อวาน แบตก็หมด เมนโมรี่ก็เต็ม ปวดหัวเลย)

สะพานเกลียว ฮีลิกซ์ Helix Bridge แล้วก็เดินไปที่ Merlion ก่อนที่จะไปดู Wonder Full อีกรอบนึง แล้วกลับไปพักที่โรงแรม

กลับมาถ่ายรูปอีกรอบนึง ซ่อมขอเมื่อวาน

มุมนี้สวย เดินจากสะพานฮีลิกซ์ มาอีกฝั่งก็จะได้มุมนี้

อีกมุมยอดฮิต สิงโตพ่นน้ำ กับตึกเรือ มาริน่าเบย์
ขากลับจาก มาริน่า ก็ไปขึ้นรถเมล์ ที่ป้าย แต่ค่อนข้างไกลพอสมควร (ที่ป้ายใกล้ๆ ไม่มีรถเมล์ไปที่โรงแรม) ก็เลยเดินมา เจอสถานที่ สวยๆ ดูโบราณ สไตส์ยุโรป น่าสนใจดี

โรมแรม หรูมาก
โรงละคร วิคตอเรีย Victoria Theatre & Concert Hall

เปิด 10.00-21.00
ค่าเข้าชม ตามงานที่แสดง

อาคารสไตส์ยุโรปโบราณ เปิดแสดงเกี่ยวกับศิลปะต่างๆ แต่เสียดาย ผมไม่ได้ไปตอนที่เปิด (เดินหลงทางมานั้นเอง)
โรงละคร วิคตอเรีย Victoria Theatre & Concert Hall

ศูนย์แสดงอะไรสักอย่างของสิงคโปร์

ไกลๆที่เห็นคือ โบสถ์เซนด์แอนดรู St Andrew's Cathedral
เป็นสถานที่น่ามาชม ใครมาเที่ยวแล้วมีเวลาเยอะๆ ก็แวะมาก็ดีนะครับ

วันต่อมา หลังกินข้าวเช้าเสร็จจากที่โรงแรม ก็ออกไป สวนป้อมปราการ แคนนิง

Fort Canning Park  (จุดที่ปักหมุด เป็นจุดถ่ายรูป อุโมงต้นไม้


พิพิธภัณฑ์สงคราม ที่เมื่อก่อนเป็นป้อมปราการจริงๆมาก่อน แต่ที่มาที่นี่ เพราะจริงๆแล้วจะมาถ่ายรูป มุมยอดฮิตของที่นี่เลย คือ อุโมงค์ต้นไม้ แถวนั้น (จุดที่ปักหมุดไว้ ไม่น่าพลาดเกิน 50เมตร) ถ้าค้นหาใน Google Map เลย มันจะพาไปลงอีกฝั่งนึง แล้วต้องเดินไกลมากเลย

คนมาถ่ายรูปจุดนี้เยอะมาก ต้องรอถ่ายรูปนานพอสมควร ถ้าโชคร้าย ก็จะเจอคนมาถ่ายแบบ แบบจริงจัง รอไปเถอะ 1 ชม ก็ไม่เสร็จ อยากจะร้องไห้มาก

พอเสร็จแล้ว ก็ตามคิว ถ่ายรูป จู่ๆก็มีใครไม่รู้ ลัดคิวถ่ายรูป แบบไม่สนใจคนที่ต่อคิวเลย ผมเห็นแล้วเซงมากเลย

ป้ายทางเข้า Fort Canning Park

ทางลงไปดูอุโมงต้นไม้ จุดถ่ายรูป ยอดฮิต

มุมนี้ดูธรรมดามาก ถ้าไม่ได้เอากล้องไปถ่ายรูป พอถ่ายรูปออกมา อลังการมาก

ถ่ายลงมาก็ใช้ได้เลยนะนี่
ION Orchard Mall

ก่อนที่จะกลับไปสนามบิน ก็แวะมากินร้านก๋วยเตี๋ยวแนะนำที่ห้าง ION บนถนน Orchard ก่อน ซึ่งร้านอาหารจะอยู่ชั้นใต้ดิน ต้องลงลิฟท์ไป ไม่งั้นหาไม่เจอ (ผมหาไม่เจอ เดินวนตั้งนาน) ข้างใต้ก็จะมีร้านอาหารเต็มไปหมดเลย น่ากินไปหมด แต่คงกินหมดไม่ได้ เลยต้องเลือกที่แนะนำไปก่อน ไว้คราวหน้าได้มาสิงคโปร์อีก จะกินตามใจปากอีกทีนึงล่ะกัน

ห้าง ION ที่ Orchard Str

ร้านอาหารเต็มไปหมดที่ชั้นใต้ดิน

แค่อาหารตัวอย่าง ก็อยากกินแล้วอ่ะ

Li Xin Teochew Fishball Noodles เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งน้ำซุปใสมาก (ในรูปคือ กินๆไปหน่อยแล้ว น้ำซอสเลยผสมไปหน่อย ขุนเลย เข้าใจว่าน้ำซุปที่นี่ทำจากปลานะ ลูกชิ้นเด้งมากๆ ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ใครมาลองกิน สั่งแค่ลูกชิ้นอย่างเดียวดูนะ อร่อยดี

ร้านอยู่ด้านใน ลองเดินหาดู

บะหมี่แห้ง กับ ลูกชิ้นปลา เกือบลืมถ่ายรูป

ออกมาเดินเล่นที่ Orchard ก่อนกลับไปสนามบินชางฮี

ถนน Orchard มีแต่ห้างหรูๆ เป็นส่วนใหญ่ (ห้างขายของถูกๆ ก็มีนะ)
กลับมาที่สนามบิน เพราะจะไปที่ไหนก็ไม่มีเวลามากพอแล้ว เลยกลับมาเลย เดินเล่นที่สนามบินหน่อย เสียดาย สวนต้นไม้กลางสนามบิน ยังไม่เปิด เลยไม่ได้เข้าไปดู (เปิดกลางปี 2019)

ก็หาอะไรกินที่สนามบิน ก็มาเจอ 7-11 พอดี เลยมาหาซื้อของกินที่แนะนำที่สิงคโปร์ แต่ยังไม่ได้กินหน่อย
ในสนามบิน มีจุดถ่ายรูปตามทางอยู่เยอะเหมือนกัน

ไก่สะเต็ก และ ข้าวปั้นไส้ปูผัดพริก

มาม่ารสกะหรี่เผ็ด
ไก่สะเต็ก ก็อร่อยดี เหมือนของไทยเลย น้ำสะเต็ก ก็เหมือน แต่ไม่มีอาจาดให้ (ไม่รู้ว่าถ้าไปกินที่ร้านธรรมดาจะมีให้หรือเปล่า
ข้าวปั้นไส้ปูผัดพริก กินจนหมด ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
มาม่า แฟนผมนึกว่าจะคล้ายต้มยำ กลายเป็นแกงกะหรี่แทน ร้องเลย

ขากลับไทย โดนตรวจกระเป๋าทุกคน ผมก็โดนด้วย น้ำหนักเกิน สุดท้ายต้องทิ้งของเลย (ของที่ทิ้งไปมูลค่า 500 บาท แต่ถ้าเพิ่มน้ำหนัก 1500บาท) แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน คราวหลังคงต้องซื้อโหลดของขากลับล่ะ

ตอนขึ้นเครื่อง ก็นั่งแยกกับหมวย ไปเจอ 2 สาว นั่งข้างๆ จำได้ว่า 1ในนั้นพูดว่า
"ตั้งแต่เรียนจบนี่ ก็พูดน้อยลงเยอะเลย เพราะรู้สึกหลายเรื่องมันไร้สาระ"
จากนั้นผมก็นั่งฟัง เรื่องผู้ชาย เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องอะไรไม่รู้ ตลอด 2ชั่วโมงกว่า จนถึง กทมเลยครับ

สำหรับทริปไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้นะครับ
(มีบทสรุป ปัญหาต่างๆ ค่าใช้จ่ายใน สิงคโปร์ ด้วยนะครับ)

ขอบคุณมากครับที่ติดตามชม
ยังไงติดตามต่อเรื่องอื่นด้วยนะครับ

=======================================================
อ่านตอนอื่นๆใน พุงนิ่ม Blogger
=======================================================
เที่ยวสิงคโปร์ Singapore 2018 ตอน 0 เตรียมตัวไป
เที่ยวสิงคโปร์ Singapore 2018 ตอน 1 สนามบินสิงคโปรชางชีม , China Town ,  Henderson wave , Orchard Road , Marina Bay
เที่ยวสิงคโปร์ Singapore 2018 ตอน 2 ย่านบูกิสและกัมปง กีลาน , Little India , Marina Bay.Fort canning park , สนามบิน สิงคโปร์ 
เที่ยวสิงคโปร์ Singapore 2018 ตอน บทสรุป ปัญหาต่างๆ ค่าใช้จ่าย
=======================================================

=======================================================
ดู YouTube เที่ยวสิงคโปรใน พุงนิ่ม Channel
=======================================================
Singapore | เที่ยวสิงคโปร์เอง 2018 Ep.1 | PMTravel
https://youtu.be/8N0vyq_kteY
Singapore | เที่ยวสิงคโปร์เอง 2018 Ep.2 | PMTravel
https://youtu.be/GJRm3l2wK8o
Singapore | รวมรายจ่าย สิงคโปร์ 2018 | PMTravel
https://youtu.be/y0hZFKi-1oM
=======================================================

============================= แนะนำ ติชม ได้ในคอมเม้นจ้า ============================= รบกวนกด Like & Subscribe ด้วยนะครับ Youtube >>> https://goo.gl/GnbgKJ
Fanpage >>> https://facebook.com/phungnim.panwasit ============================= ขอบคุณมากครับ
=============================
คลิกด้านล่าง เพื่อไปเรื่องที่ใกล้เคียงกันได้เลยจ้า

ความคิดเห็น