เที่ยวเกาะกูด ชีวิตกู๊ดๆ ที่ เกาะกูด Good Life @ Koh Kood | พุงนิ่ม

เที่ยวเกาะกูด ชีวิตกู๊ดๆ ที่ เกาะกูด

Good Life @ Koh Kood | พุงนิ่ม

ติดตามชมเที่ยว เกาะกูด ได้ใน YouTube Channel
เที่ยวเกาะกูด EP 1 >> https://youtu.be/Rwy56DZY1FE
เที่ยวเกาะกูด EP 2 >> https://youtu.be/iFI3teoLMA8
เที่ยวเกาะกูด EP 3 >> https://youtu.be/DlmKqrHMhGM

========================================

สวัสดีครับ บล๊อคนี้จะชวนไปเที่ยวเกาะกูด จังหวัดตราด ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายของตะวันออกของไทยเลย  โดยเราได้วางแผนคร่าวๆไว้คือ ออกจาก กทม ตอนเช้า แวะกินร้านอาหารชื่อดังหน่อย และไปท่าเรือแหลมศอก ต่อเรือไปลงที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวสลัดเกาะกูด จากนั้นก็จะไปทัวร์ดำน้ำดูปะการังที่หมู่เกาะรัง (เกาะยักษ์ใหญ่ และ เกาะยักษ์เล็ก) ไปหมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่ จบท้ายด้วยการพายเรือแคนูเข้าคลองใหญ่หน่อย แล้วก็กลับ กทม นะครับ

ทริปนี้มีจุดที่ได้ไม่ไปอยู่หลายจุดเหมือนกัน อย่าง คลองเจ้า น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกห้วงน้ำเขียว ต้นไม้ใหญ่ เขาเรือรบ นะครับ เพราะว่าแฟนไปไม่ไหว

เรื่องของเรื่อง จู่ๆ แฟนผมก็บอก อยากไปเที่ยวที่เงียบๆ ไม่มีคน ทะเลสวย น้ำใส อ่ะ ผมก็จนมุมสิครับ อารมณ์เหมือน ผู้หญิงบอก "กินอะไรก็ได้ง่ายๆ" น่ะล่ะ ตายๆๆ

ก็เลยให้เขาไปดูภาพมาว่าที่ไหนสวย ที่ไหนน่าไป แล้วค่อยว่าอีกทีว่าจะไปที่นั้น
ซึ่งก็ได้คือ เกาะกูด นั้นเอง โชคดีไม่ใช่เกาะที่ต่างประเทศ...

ไปก็ไป ว่าแต่ไปยังไงดีหว่า ดูสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดก่อน แล้วก็โยงว่าอันไหนอยู่ใกล้กันก็จับไว้ด้วยกัน ไปในวันเดียวกัน เช็คเวลาเปิดปิด แล้วค่อยจองโรงแรมที่อยู่ในเส้นทางอีกทีนึง ประมาณนี้
*ปกติเวลาเที่ยว จะอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่ะ

แต่รอบนี้แฟนดิ้นกระแด่วๆ จะไปนอนที่ รีสอร์ท  ไปพักผ่อน จะนอนริมทะเล นอนตากลม เอาชีวิตไปทิ้งที่ทะเล ไม่อยากไปไหนแล้ว หมดไฟแล้ว

งั้นก็จองที่พักที่เกาะกูดเลยล่ะกัน ส่วนที่เหลือ อยากแวะค่อยไป ก็จดๆเอาไว้ เผื่อว่าจะได้ไป

สำหรับใครที่ไปตราด ก็แนะนำสถานที่บนฝั่งด้วยนะครับ
หาดทรายดำ (หาดหัวสน) *ต้องน้ำลงสุดถึงจะเห็น
หาดบานชื่น
น้ำตกสะพานหิน
บ้านน้ำเชี่ยว *เป็นตลาดน้ำ
สวนสละสมโภชน์
ป่าชายเลน มี3ที่ดังๆ บ้านในสลักเพชร ,เปร็ดใน ,ท่าระแพะ
พิพิธภัณฑ์ สถานเมืองตราด
เทศกาลชมแมงกะพรุ่นหลากสี *ต้องเช็ควันด้วย

จะจองยังไงดี ถ้าจองเอง ก็ซื้อตั๋วเรือ เช่ารถไปที่โรงแรม (จะเช่ามอเตอร์ไซค์หรือขึ้นสองแถว) แล้วก็จองโรงแรมอีกทีนึง ก็ได้ แต่ขี้เกียจอ่ะ ก็เลยตัดสินใจ ซื้อทัวร์ไปเลยล่ะกัน ง่ายดี

*เอาจริงๆคือ ค้นหาที่พัก ก็เจอแต่แพคเกจ ค้นหาตั๋วเรือ ก็มีแต่แพคเกจ ก็เลยยอมก็ได้ ขี้เกียจหาทางเองเหมือนกัน

แล้วก็มาลงเอยที่  KLERM LAND <<ใครสนใจเข้าไปคุยได้นะ คนที่ติดต่อดีมากครับ

 

ก็ยอมรับนะ ตอนแรกเข้ามาเพราะมีแพคเกจ ราคาถูก นี่ล่ะ แต่รู้สึกดีที่ คนติดต่อ (ทาง Facebook) คุยดีมาก แนะนำตลอด แล้วช่วยแจ้งข่าวทั้งหมด รวมถึงช่วงที่จะไป สงสัยอะไรก็ทิ้งคำถามไว้ บางทีตอบตอน 5 ทุ่มก็มี (คนถามเยอะเลยตอบคำถามไม่ทัน) นอกจากนั้นแฟนผมไม่ไปดำน้ำด้วย ก็คืนเงินมาเร็วมาก ก็เลยขอโฆษณาให้หน่อยนะครับ (18/5/2019 วันที่เขียนเรื่อง)

ก็ผมก็เลือก แพคเกจนี้ (ราคา ณ วันที่ วันที่ 6 - 8 มีนาคม 2562)

คนล่ะ 3680 บาท ก็จะมี

• เรือ ไป กลับ เกาะกูด จากท่าเรือแหลมศอก
• รถ ไป กลับ โรงแรม ท่าเรือ บนเกาะกูด
• โรงแรม 2 คืน อาหารเช้า 2 วัน
• ทริปดำน้ำชมปะการังที่ เกาะรัง 1 วัน รวมอาหารเที่ยงที่เกาะรัง (มีรถ หรือ เรือ มารับไปทริป)

เรียบร้อย โอนตังค์เสร็จ ก็รอวันไปเที่ยวได้เลย
*มีข้อตกลงแจ้งมาด้วยนิดหน่อย อ่านให้เรียบร้อยด้วยนะจ๊ะ

=====================================================
เที่ยวเกาะกูด EP 1 >> https://youtu.be/Rwy56DZY1FE

กดดูเที่ยวเกาะกูด EP 1  ได้เลยจ้า

เช้าวันที่ 6 มีนาคม ฤทธิ์งามยามดี ออกจากบ้านตอน ตี5 เลยจ้า ที่จริงก็ไม่ได้อะไรหรอก กลัวจะไปท่าเรือไม่ทัน เป็นโรคจิต ชอบไปก่อนกำหนด โดนแฟนว่าเรื่องนี้หลายรอบล่ะ 555+

ออกจากบ้านมาตอนเช้า ขึ้น มอเตอร์เวย์ วิ่งผ่าน สนามบินสวรรณภูมิ แล้วมาแวะกินข้าวที่
ศูนย์บริการทางหลวง กรุงเทพ-ชลบุรี มอเตอร์เวย์

กินให้น้อยกว่าวิ่ง กิน 1โล วิ่ง 300 โล

เราถือคติว่า "วิ่งให้มากกว่ากิน จะได้ไม่อ้วน" "วิ่ง 300 กิโล กินแค่ไม่ถึงกิโล ยังไงก็ไม่อ้วน"

จากนั้นก็ตรงยาวมาที่ ตราดเลย มีแวะเติมแก๊สไปหน่อย
ต้องบอกเลยว่ารถแก๊สนี่มันของดี ประหยัดน้ำมันมาก ไปไหนมาไหนสบายเลยล่ะครับ
ปกติค่าเดินทางเท่าไหร่ แก๊สก็หาร 2.5-3เท่าเลย

ใช้แก๊สแล้วลดรายจ่ายค่าเดินทางได้เยอะเลย

เมื่อมาถึงตราด (ถึงเร็วกว่าที่คิดไว้ ครึ่งชม) ก็ไปกินร้านอาหารชื่อดังของที่นี่ก่อน
ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท

ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท
เปิดทุกวัน 8.00 - 14.30 (ของหมดปิดเร็ว)
ราคาราว 100บาทต่อคน

ร้านก๋วยเตี๊ยวปู สุขุมวิท อยู่ใกล้ๆตลาด สามารถเดินมาได้ (ที่จริงมาจอดแถวนี้ก็พอมีที่นะ)

รวมเครื่องที่มีทั้งหมด

ก๋วยเตียวรวมมิตรทะเล (สั่งไม่ใส่ไข่ปูมา)

เป็นร้านเก่าแก่มากของที่ตราดเปิดมานาน 30 ปี แล้วมั้ง เมนูที่ดังก็คงจะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำหน้าทะเล ที่มีหมดทุกอย่างเลย ก้ามปู กุ้ง ปลาหมึก ไข่ปู กั้ง มาให้ครบเลย

และอีกอย่างที่ผมว่า อร่อยดี แต่เผ็ดนะ คือ ข้าวผัดพริกเกลือของที่นี่ล่ะ ซึ่งไม่ใช่พริกเกลือจิ้มผลไม้นะ แต่พริกเกลือ ของตราด = น้ำจิ้มซีฟู๊ด ของบ้านเรานั้นเอง หรือก็คือ ข้าวผัดน้ำจิ้มซีฟู๊ด

ข้าวผัดน้ำพริกเกลือ

ก่อนไปก็ถ่ายรูปสักนิดนึง รู้สึกร้านนี้ ถ่ายรูปแล้ว ฉากหลังสวยมากเลย สีสรรเยอะดี

ฉากหลังดูโบราณดี

ที่จริงช่วงบ่ายๆ จะมีรถเข็นปลาหมึกเจ้าดังอยู่ข้างๆด้วย เสียดายผมมาช่วงเช้า เลยยังไม่เปิด อดเลย

เหมือนร้านจะเปิด บ่าย 1หรือ บ่าย2 เย็นๆ ก็ปิดแล้ว วันไหนไม่เปิด ก็คือ ไม่มีปลาหมึกนั่นเอง 

ไม่มีปลาหมึก จะเอาอะไรย่างแทนล่ะจ๊ะ

ร้านปลาหมึกย่าง เจ๊แสง

จากนั้นก็ไปท่าเรือแหลมศอกกันต่อเลย จากในตัวเมืองราว 30 นาที ก็จะถึง

ท่าเรือแหลมศอก
 
เปิดทุกวัน
8.00 - 14.30 (เช็ครอบเรือให้ดี ควรมาก่อนเรือออก 1 ชม (ครึ่งชม จะมีรถรับไปที่ท่าเรือ)
ที่จอดรถคืนล่ะ 100 บาท (ที่จอดรถเยอะ)

สำหรับบริษัททัวร์ที่ผมซื้อ ก็จะพาผมไปกับ บริษัท "เกาะกูด express" ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัทเดินเรือของที่นี่ ส่วนอีก 2 เจ้าชื่อ ปริ๊นเซส และ บุญศิริ อยู่แถวนี้เหมือนกัน และลงเรือที่เดียวกัน

บริษัทเกาะกูด Express จะตั้งอยู่บริเวณท่าเรือเลย

สำหรับ เกาะกูด express จะมีเรือ 3รอบ โดยมีเรือประหยัดรอบเดียวเท่านั้น (เรือเฟอรี่) และแน่นอน ผมรอรอบนี้อยู่จ้า

ตารางเดินเรือ และ ตารางเดินรถกลับ กทม

เมื่อใกล้ถึงเวลาเรือออก (ราว 30 นาที) ก็จะมีรถสองแถวมารับที่บริษัททัวร์ เพื่อไปส่งคนที่จะไปเกาะกูดลงที่ท่าเรือแหลมศอกใกล้ๆ (เดินไปไม่ไหวนะ) ก็ขึ้นรถไปลงที่ท่าเรือได้เลยจ้า เช็คสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนไปนะ เดียวจะลืมของแล้วจะกลับมาไม่ได้แล้วนะ

รถสองแถวมารับที่บริษัท เพื่อพาไปท่าเรืออีกที

เรือที่ไปเป็นรถขนาดพอสมควร เหมือนจะมี 2 ชั้น (ไม่ได้เดินไปดูชั้นใต้ดินว่ามีอะไรบ้าง) ก็มีโซนห้องแอร์ และ โซนตากลมทะเล (มีหลังคากันแดดอยู่ ไม่ร้อนมาก)

เรือที่จะพาเราไปเกาะกูด

ท่าเรือ หมู่บ้านชาวประมง อ่าวสลัด
เปิดทุกวัน ปิดวันที่พายุเข้า

ประมาณ 1 ชม จากท่าเรือแหลมศอก ก็จะถึง หมู่บ้านชาวประมงอ่าวสลัดที่เกาะกูด ซึ่งที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวสลัด ก็จะมี มาสคอต เป็นโจรสลัด สมชื่อ อยู่ที่ท่าเรือเลย ถ่ายรูปได้ แต่ไม่มีเวลาถ่ายเพราะต้องรีบขนของขึ้นรถสองแถวที่จอดรออยู่ด้านบนถนน เพื่อที่จะไปที่พัก โรงแรมที่เราจองไว้อีกทีนึง

สำหรับการเดินทางบนเกาะกูด ก็จะมี เช่า เหมา รถกระบะ หรือ เช่ามอเตอร์ไซค์ก็ได้ ตามสะดวกเลย

*ขากลับค่อยมาถ่ายรูปก็ได้ เพราะมีเวลาเหลือเฟืออยู่

มาสคอต โจรสลัด สมจริง แขนขาขาดหมดเลย

*ที่เกาะกูดมีปัญหานิดหน่อย เหมือน Google Map จะไม่สามารถใช้งานได้ดี ใช้แผนที่ผมก็พอได้

แผนที่นี้ คือทริปผมพูดถึงทั้งหมด ใช้อันนี้ก็ได้ครับ

นั่งรถราว 1 ชม จากอ่าวสลัด ก็จะถึงโรงแรมที่ผมจองไว้ ที่อ่าวพร้าว ซึ่งเป็นหาดสุดท้ายของเกาะกูด ไกลมาก แล้วก็พึ่งเปิดด้วย ถนนเข้าไปที่โรงแรมเลยเป็นรุงรังเลย

รถกระบะ สองแถว จอดรถรับคนไปส่งตาม โรงแรมต่างๆ จะมีคนบอกว่า ต้องขึ้นคันไหน

นั่งรถยาว 45 นาที หรือ 1 ชมนี่ล่ะ ไกลมาก 

เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นเขาลงเขา และคอนกรีด ที่สะเทือนมาก

อ่าวพร้าว Sunshine Resort 

 
หาดพร้าวที่ผมพัก มีทั้งหมด 3 โรงแรมติดหาด และที่ผมเข้าน่าจะเป็นโรงแรมที่ถูกที่สุดในเกาะกูดแล้วล่ะ (เพราะมันไกลสุดยังไงล่ะ)

โรงแรมนี้ มีเรือคานูให้ใช้ฟรีด้วย แค่เอามาคืนเท่านั้นเอง ส่วนเก้าอี้ ที่นั่งริมหาด ก็ลากไปตั้งได้เลย (ผมได้พายเรือคานูที่นี่ครั้งแรก ก็เพราะมันฟรีนี่ล่ะ)

ด้านหน้าโรงแรม มีเรือแคนูพร้อมไม้พาย ให้ยืม แต่เอามาคืนด้วย

ลงจากโรงแรมก็จะเป็นหาดเลย

หาดพร้าวเป็นหาดพึ่งเปิดมาไม่นาน (เปิดที่หลังสุด) ก็ยังสวยงาม มีธรรมชาติล้อม ต้นมะพร้าวเยอะมาสมชื่อหาดพร้าว แล้วมีปากน้ำคลองใหญ่ ที่มีหมู่บ้านเล็กๆ และเราสามารถพายเรือคานูจากโรงแรม เข้ามาที่คลองใหญ่ได้ด้วย ซึ่งผมจะพายมาเข้าคลองที่หลัง

หาดอ่าวพร้าว (มะพร้าวเต็มเลย)

หาดดำๆหน่อย เพราะมีแร่ธาตุ สิ่งมีชีวิตจะได้อยู่ได้

มีคนอยู่บ้าง แต่ค่อนข้างน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนต่างประเทศ

มีขยะนิดหน่อย กลายเป็นส่วนนึงของธรรมชาติไปแล้ว

ปูลม 1 ในตัววัดความเป็นธรรมชาติ สำหรับผม

จนกระทั่งเย็น เริ่มหิว ก็เลยเดินออกไปหาของกินข้างนอก ก็เกือบ กิโลเหมือนกัน ไกลพอสมควร ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีร้านแล้ว กำลังจะเดินกลับ เจอป้าที่อยู่แถวนี้จะไปซื้อของพอดี เลยเดินตามมาด้วยนี่ล่ะ ก็มาเจอร้านค้า หมู่บ้านที่คลองใหญ่นี่ล่ะ

ที่นี่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหาดใครเป็นของใคร จะอยู่ที่ไหน ก็ไปหาดไหนก็ได้ แต่ถ้าให้ดีก็อุดหนุดร้านของเขาหน่อยก็ดีนะ

เจอคนแถวนี้พอดี เลยเดินตามไปเลย  (จากโรงแรมถึงหมู่บ้าน ราว 1 กิโล)

ที่เรียกอ่าวพร้าว เพราะมีมะพร้าวเยอะ (แค่นั้นจริงๆ)

สุดท้ายแล้วก็มากินร้านอาหารริมทะเล เพราะหาร้านอาหารบ้านๆไม่เจอ ก็กินร้านธรรมดาก็ได้ (ราคาประมาณ 120 บาท ต่อจาน) อาหารออกหวาน ไม่แน่ใจว่า ทำเอาใจคนต่างชาติหรือเปล่านะ เพราะคนต่างชาติเยอะมาก คนไทยน้อย

ช่วงเย็นหลังจากกินข้าว ก็เดินเล่นกันที่ชายหาดหน่อย ดูพระอาทิตย์ตกดิน ก่อนที่จะกลับไปนอนที่รีสอร์ทอีกทีนึง

สุดท้ายมากินร้านอาหารริมหาดพร้าวแทน

มีกระเพราะทะเลอีกอย่างนึงนะ

เกือบทุกหาดจะมีสะพานไม้ ทอดไปที่กลางทะเลอยู่

ตอนกลางคืนมีเปิดไฟด้วย

กินมาม่าเฉยเลย

จบวันแรกสำหรับการเที่ยวที่เกาะกูดนะครับ

เที่ยวเกาะกูด EP 2 >> https://youtu.be/iFI3teoLMA8

กดดูเที่ยวเกาะกูด EP 2  ได้เลยจ้า

เช้าวันที่สองของการมาเกาะกูด โรงแรม

อาหารเช้าของโรงแรม ก็โอเคนะ มีไข่ดาว สลัดผัก ไส้กรอก แฮม ไก่ผัดเปรี๊ยวหวาน ข้าว เฟรนฟราย ผลไม้ กล้วย แตงโม ขนมปังปิ้ง แยมต่างๆ เนย น้ำส้ม น้ำสตอเบอร์รี่ ชา กาแฟ นม ทั้งหมดก็ประมาณนี้ กินจนอิ่ม แล้วก็ไปเดินเล่นที่ทะเล ก่อนที่จะไปดำน้ำดูปากะรังคนเดียว (แฟนไปไม่ไหว เลยของเงินคืนมาส่วนนึงจากค่าทริป แต่ต้องบอกก่อนล่วงหน้าด้วยนะ)

กินอาหารเช้าที่โรงแรม พร้อมดูวิวเพลินๆ

ก็เดินเล่นตามชายหาด ยังสะอาดดี ไม่ค่อยมีขยะ ไม่สกปรก น้ำทะเลไม่คัน แล้วที่นี่เกือบทุกหาดจะมี สะพานไม้ทอดยาวไปทะเล เพื่อถ่ายรูปได้ด้วย

มุมถ่ายรูปสุดหรู

เดินไปสะพานไม้ ไปถ่ายรูปหน่อย (แบบเมื่อคืน)

ช่วงที่เดินไปที่สะพานไม้ ก็ตกใจ เห็นฝูงปลาขนาดใหญ่มากน่าจะประมาณ สนามบาสได้เลย ไม่รู้ว่ามาทำอะไรนะ ก็เลยลงน้ำ แล้วว่ายไปดูปลาหน่อยว่าเป็นยังไง 

พอเข้าไปปั๊ป รู้ปุ๊ปเลยว่าเป็นยังไง เหม็นขี้ปลา และคาวปลามาก เหม็นมาก ขึ้นมายังติดเสื้ออยู่เลย โหววววว

แอบเสียดาย ไม่ได้เอากล้อง Gopro 6 กันน้ำมาด้วย

ที่ดำๆน่ะ ฝูงปลานะ

เหม็นขี้ปลาคาวปลา มาก

ประมาณ 8โมงกว่าๆ รถจากบริษัทก็จะมารับไปดำน้ำดูปากะรังที่เกาะรัง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ (ที่อ่าวพร้าว รถมารับ ส่วนที่ อื่น อาจเป็นเรือวิ่งไปรับ) ก็รถจะมารับเราที่รีสอร์ท ก่อนที่จะมาส่งที่ ท่าเรือตรงคลองเจ้า

สำหรับหาดพร้าว จะมีรถมารับไปลงเรือที่ คลองเจ้า

เรือ 20 คน สำหรับนั่งไปดำน้ำดูปากะรัง ที่เกาะรัง (คลองเจ้า)

ไม่นานนัก เรือก็ออกไปรับคนอื่นๆที่รีสอร์ทอื่น จนครบ แล้วค่อยวิ่งยาวไปยันเกาะรัง ใช้เวลาประมาณ เกือบ 1 ชม

*ใครไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยๆ เมารถง่าย แนะนำให้กินยาตั้งแต่ก่อนขึ้นเรือ 30 นาทีนะครับ

เรือใครก็ไม่รู้

พอออกนอกคลอง ก็เริ่มวิ่งเร็วแล้ว

มีสัญญาลักษณ์ TART อยู่หลายจุดนะ เท่าที่เห็น

เมาเรือประมาณ 10 คนจาก 17 คน (ตรูด้วย)

ที่หมู่เกาะรังจะมี 2 เกาะ ที่อนุญาติให้ดำน้ำชมปะการัง คือ เกาะยักษ์ใหญ่ และ เกาะยักษ์เล็ก ที่ให้ดำน้ำดูปะการังกันนะครับ 

สำหรับคนที่อยากดูปะการัง แนะนำให้ดูในคลิปนะครับ
เที่ยวเกาะกูด EP 2 (ช่วงดำน้ำดูปะการัง)  >> https://youtu.be/iFI3teoLMA8?t=335

ทั้ง 2 เกาะนี้ (เกาะยักษ์ใหญ่ และ เกาะยักษ์เล็ก) สมัยก่อนนี้ เคยเป็นเป้าซ้อมเรือรบ ทำให้มีเศษหินใหญ่ๆ กระจายอยู่เต็มไปหมด และก็เกาะรูปร่างแปลกๆด้วย (โดนยิงไง)

เมาเรือนิดหน่อย

แว่นตาดำน้ำ กับ ที่หายใจ มีให้ในทริปแล้ว (ปล.ล้างน้ำให้สะอาดด้วยจ้า)

แนะนำให้ไปดูใน YouTube นะครับ

โดยจะดำน้ำดูปะการังที่ล่ะ 1 เกาะ (จำไม่ได้  เกาะยักษ์ใหญ่ หรือเกาะยักษ์เล็ก ก่อน) แล้วค่อยมาแวะกินข้าวเที่ยวที่หาดของเกาะรัง ก่อนที่จะไปดำน้ำอีกเกาะนึง บนเกาะรังก็จะมีที่นั่งพัก มีห้องน้ำ(แต่ไม่ได้ไป ไม่รู้อยู่ตรงไหน) ก็ตามสะดวกเลย

ส่วนผมเมาเรือหนักมา ข้าวปลากินไม่ลงเลยทีเดียว ได้จิมน้ำเป๊ปซี่หน่อย ก็จะดีขึ้นเยอะ ก่อนที่จะไปดำน้ำที่เกาะต่อไปกัน

ที่พักเที่ยง เกาะรัง อยู่ติดกับ เกาะยักษ์เล็ก-ใหญ่ ประมาณ 5 นาทีก็ถึง

น้ำเปล่า น้ำเป๊ปซี่ น้ำแข็ง ข้าวกล่อง ผลไม้ จัดมาให้หมดแล้ว

ดื่มได้แค่น้ำหวาน ช่วยให้ไม่เวียนหัว

ข้าวก็ดีนะ แต่กินไม่ไหวจริงๆ เสียดายมาก

กระโดดจากเรือลงไปสักรอบนึง (มีคนตกใจด้วย เพราะเสียงดังมาก)

ธรรมชาติยังดูดี ใครอยากมาก็ตามมาได้เลยนะครับ

และแล้วก็ให้อาหารปลาจนได้...(มีเพื่อนอีก 4 คน อ๊วกกันหมด)

กลับมาที่คลองเจ้าอีกทีนึง

โดยรวมแล้ว น้ำใส ปลาเยอะ (มีคนเจอปลาหมึกด้วย แต่ผมไม่เจอ เสียดาย ไว้ทริปไหนมาตกปลาหมึกกินดีกว่า) แล้วก็ปะการังยังถึงว่า OK อยู่นะครับ ยังไม่ถูกทำลายมากนัก

ยังไงฝากช่วยกันรักษาระบบนิเวศ รวมถึงการ งดให้อาหารปลา การไปแตะไปโดนปากะรัง หรืออื่นๆนะครับ

ปล. ให้อาหารแบบฉุกเฉิน ปลามากินเต็มเลย โถ่ๆๆๆ (พออ้วกเสร็จก็โล่งเลย)

จากนั้นก็นั่งเรือกลับมายังที่พักนี่ล่ะ (ใครเมาเรือตั้งแต่ต้น ก็เหนื่อยหน่อยนะ ไม่รู้จะหนียังไงเลย)

เที่ยวเกาะกูด EP 3 >> https://youtu.be/DlmKqrHMhGM

กดดูเที่ยวเกาะกูด EP 3  ได้เลยจ้า

หลังจากกลับมาจาก ดำน้ำดูปะการังแล้ว ก็ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ที่โรงแรมที่ผมพักอยู่ ตอนแรกมีแผนไป น้ำตกคลองเจ้าด้วย แต่แฟนไปไม่ไหว ก็เลยไปแค่ที่เดียวคือ หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่ เพื่อไปกินอาหารทะเลกัน ซึ่งอ่าวใหญ่อยู่อีกฝั่งนึงของเกาะกูด เรียกว่าจะปลายสุดของเกาะกูดเลยก็ได้

ระหว่างทางจะมีจุดพักชมวิวด้วย ซึ่งจุดนี้จะมองเห็นหมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่ เป็นภาพที่ดูดีทีเดียว

มอเตอร์ไซค์ เช่าวันล่ะ 400 บาท หรือ 6ชั่วโมง 200 บาท

หมู่บ้านชาวประมง อ่าวใหญ่

ร้านอาหารชลธิชา ซีฟู๊ด ที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่

เปิดทุกวัน
10.00-21.00
ราคาอาหาร 100-200 (ราคาสูง แต่ให้เนื้อเยอะดี)

ที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่ ค่อนข้างเงียบ คนน้อย อาจเป็นเพราะค่อนข้างไกลด้วย คนเลยไม่ค่อยมากัน แถมเหมือนจะไม่มีเรือเฟรี่นักท่องเที่ยวมาจอดด้วย

เมื่อเข้ามาก็จะมีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้านที่ทางเข้า แล้วเดินจนสุดก็จะเป็นร้านอาหารที่ผมมากิน ชลธิชา ซีฟู๊ด โดยระหว่างทางก็จะเป็นหมู่บ้านที่มีคนอาศัยอยู่ มีเรือประมง มีวิถีชาวบ้านให้เห็นอยู่เนืองๆ

คนน้อย น่าจะเพราะอยู่อีกฝั่งนึงของเกาะเลย

มีการประมงเป็นหลัก

แทบไม่เจอคนเลย ทั้งนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน

หลังคาแดงๆเขียนว่า SEAFOOD คือร้าน ชลธิชา ซีฟู๊ด

สำหรับร้านอาหาร ชลธิชา ซีฟู๊ด ตอนแรกก็รู้สึกแพงนะ แต่พอสั่งอาหารมากิน ก็ถือว่า OK ให้เนื้อเยอะมาก อย่างข้าวผัดกุ้ง ก็มีกุ้ง 10 กว่าตัว ข้าวต้มกุ้ง ก็มีอีก 10 กว่าตัว ตัวใหญ่พอสมควรด้วย ผมให้ผ่านล่ะกันนะ 555

ที่จริงมีหอยแปลกๆขายด้วยนะ (แปลกสำหรับผม) อย่างหอยโข่งทะเล หอยสังฆ์ ให้กินด้วย โดยหอยโข่งทะเลจะไปผัดฉ่า หรือผัดเผ็ดนี่ล่ะไม่แน่ใจ ส่วนหอยสังฆ์ ก็จะเป็น ชาชิมิ เท่านั้น ซึ่งหอยโข่งทะเล ผมรู้สึกเหมือนหอยมีพิษชนิดนึง (หอยเต้าปูน) ก็เลยหวาดเสียว และอีกอย่าง ผมไม่กินเผ็ดเลยไม่กิน ส่วนหอยสังฆ๋ ทำชาชิมิ แบบดิบ ซึ่งผมเกรงว่าจะท้องเสีย (ท้องเสียง่าย)

อีกอย่างคือแฟนผมไม่กินด้วย ต้องกินคนเดียวนี่ล่ะ

สุดท้ายผมก็ทดลองกิน หอยเม่นไทย ที่นี่แทน (ไม่ใช่หอยเม่นญี่ปุ่น อูนิ ที่กินกันนะ) ก็มี 2 อย่างคือ นึ่ง กับ ชาชิมิ แน่นอน ผมก็สั่งนึ่ง กลัวท้องเสีย (ไว้วันไหนจะกิน อูนิชาชิมิ อีกทีนะ)

เมื่อเด็กมาเสริ์ฟก็แปลกใจนะ ทำไมมันเยอะจัง สีขาวๆ มีจุดเหลืองๆใหญ่ๆด้วย ที่ไหนได้ ใส่ไข่นึงนี่นา ขำเลย

บอกแฟนไปว่า จะลองกินดู กินน้อยๆ เผื่อท้องเสียจะได้ไม่หนัก แล้วก็กินข้าวเยอะแล้วด้วย...

กินหมดเลย โถถถถ

ข้าวผัดกุ้ง กับ ข้าวต้มกุ้ง มีกุ้งรวมกันเกือบ 20 ตัว

หอยเม่นไทย เด็ดหนาม ซะไม่เหลือเลย (ในรูปคือ กินหมดแล้ว)

เดินเล่นที่ หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่แปปนึง ก่อนที่จะกลับไปที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวไปพายเรือแคนู เข้าคลองใหญ่ ที่อ่าวพร้าวดู

แผนที่ อ่าวพร้าว 

ซึ่งตอนจองก็ไม่ได้คิดอะไร พึ่งมาสังเกตุว่า ถ้าเราไปพักที่อ่าวเจ้า ก็สามารถพายเรือเข้าคลองเจ้าไปดูน้ำตกคลองเจ้าได้เลย เสียดายเราพักที่อ่าวพร้าว ถ้าพายเรือไป ก็เป็นกิโลเลย ตกน้ำตายกลางทางแน่นอน ไม่ไหวๆ

พอกลับมาถึงที่โรงแรมแล้ว ก็ไปยกเรือแคนู เพื่อไปพายเรือเลย แต่แฟนผมตอนแรกก็จะไม่ไป แต่ก็โดนลากไป ก็เลยไม่พายล่ะกัน นั่งติดไปด้วย

ลากเรือลงทะเลก่อน

ถ่ายจากกลางทะเลนี่ล่ะ

พายเรือจาก หน้าโรงแรม Sunshine Resort ไปที่ปากน้ำคลองใหญ่ เกือบ 1 km แล้วคลื่นเยอะ พายเรือค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกันสำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายแบบผม

ที่จริงระหว่างทางเจอฝูงปลา ที่เจอเมื่อเช้าด้วย ตรงสะพานไม้ ที่เดิมเลย ก็เลยเข้าไปดูใกล้ๆหน่อย แต่ไม่ได้ลงไปว่ายน้ำนะ ก็เหมือนเดิม เหม็นคาวปลามาก แต่พอดีเอากล้อง Gopro 6 มาด้วย เลยจุ่มน้ำไปถ่ายรูปฝูงปลาเลย

ว่าไปฝูงปลาแบบนี้ ไม่รู้เป็นปกติหรือเปล่า เกิดมา เที่ยวทะเล 30 ปี พึ่งเคยเห็นนี่ล่ะ และคิดว่าคงไม่ได้เห็นแบบนี้อีกอ่ะนะ

ฝูงปลาตั้งแต่เมื่อเช้าเลยมั้งนี่ อยู่ที่เดิมด้วยนะ

ปลาอะไรไม่รู้ ปลาซาร์ดีน หรือ ปลาแมคเคอเรล มั้ง

พายไปจนสุดหาดพร้าว ก็จะเจอกับ ปากคลองใหญ่ ที่สามารถพายเรือเข้าไปได้ แต่ที่จริงก็พายไม่ไหวหรอก ต้องลากเรือเข้าไป เพราะน้ำไหลออกมาเชียวมาก ลงจากเรือเพื่อไปลากเรือแคนูเข้าไปพายเรือในคลองใหญ่อีกทีนึง

เหนื่อยมาก หอบเลย ช่วงที่เข้าไปได้แล้ว ก็ยังอุตส่าห์ติดทรายอีกหน่อย พอดีมีน้อง 2 คน ที่อยู่แถวนั้น (น่าจะเป็นลูกชาวบ้านที่นี่) มาช่วยดัน ก็เลยสบายหน่อย

ด้านในคลองใหญ่ ก็จะมีหมู่บ้านเล็กๆ มีบ้านราวๆ 20 หลังได้มั้ง อีกฝั่งนึงก็จะเป็นป่าโกงกางตลอดแนว มีปูก้ามดาบ มีหอย สิ่งมีชีวิตเล็กๆ อยู่เยอะเหมือนกัน

ที่เสียดายคือ พายเรือไปไม่ถึงวัดอ่าวพร้าว ด้านในสุด ทั้งหมดแรง และตะวันจะตกดินด้วย อีกอย่าง ถามคนแถวนั้น ก็บอกระยะผิดหมดเลย ชอบบอกอีกนิดก็ถึง ไม่กี่เมตรก็ถึง สรุปว่า จากปากอ่าว ถึงวัด ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ส่วนผมพายมา 1.2 กิโลเมตร อีก 300 เมตร แต่ทางโค้งโดนป่าบังก็เลยมองไม่เห็น ก็เลยพายกลับเลย (กลับมาดูในแผนที่ถึงได้รู้) สรุปพายเรือราว 4 กิโลเมตรได้ ไม่รวมลากเรือด้วยนะ

แถมกล้อง Gopro ค้างอีก ต้องดึงแบตออก ถึงใช้งานได้ แต่กลัวตกน้ำ เดียวพัง ก็เลยต้องปล่อยไว้จนกลับมาที่หาดพร้าว แล้วลงไปถอดแบตอีกทีนึง
*ต้องสอนแฟนถ่ายวิดีโอหน่อยล่ะ

ถ้าจะพายเรือเข้าคลองใหญ่ หรือ คลองอื่นๆ ยังไงก็เผื่อเวลาไว้เยอะๆด้วยนะ เพราะมันมืดเร็วกว่าหาดทรายด้านนอก

ลากเรือเข้าปากคลองใหญ่

เด็ก 2 คนมาช่วยดันเรือ

หมู่บ้านเล็กๆ ในคลองใหญ่

ป่าโกงกาง ที่ยังอุดสมบูรณ์

หมดวัน หมดแรง..

ตกกลางคืน ก็ออกไปหาอะไรกินเพิ่มหน่อย ต้องบอกว่าที่นี่ กลางคืน มืดมาก บางจุด ใครจะไปไหนมาไหน แนะนำให้ไปตอนกลางวันจะดีกว่านะ 

ถ่ายจากมอเตอร์ไซค์ จากสั่นมาก

ซื้ออาหารไปกินคืนนี้หน่อย

เช้าวันสุดท้ายของเกาะกูด ก็กินอาหารเช้าที่โรงแรม ก่อนออกไปถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย รอเวลารถมารับกลับเรือที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวสลัดอีกทีนึง

กินข้าวเช้าที่โรงแรม เวลาเดิม แต่มุมดีกว่าเดิม

ลอบบี้ และห้องอาหาร ของโรงแรม

ถ่ายรูปก่อนกลับบ้าน (ส่วนใหญ่ถ่ายวิดีโอมากกว่า)

ไม่นานนัก รถก็มารับ แล้วไปส่งที่หมู่บ้านชาวประมงอ่าวสลัด ประมาณเกือบ 1 ชม ก็จะถึงท่าเรือที่เรามาเกาะ ก็อย่าลืมตั๋วเรือที่ได้รับตอนขามาด้วยนะ (เกือบลืมเหมือนกัน) 

ขากลับนี่ ตั้งใจลองนั่งข้างนอกดูบ้าง หลังจากเช็คแล้วว่า เมฆไม่มี ฝนคงไม่มี เลยสบายใจได้ ก็ลมพัดเย็นๆ แต่หน้าก็ไหม้อยู่ เพราะอากาศร้อนพอสมควร จะย้ายไปนั่งในห้องแอร์ ที่นั่งก็เต็มแล้ว โถถถถ

กลับบ้านแล้ว

ทางลงสู่ท่าเรือที่อ่าวสลัด

ขากลับนั่งรับลมด้านนอกหน่อย

ถึงท่าเรือที่ท่าเรือแหลมศอกแล้ว

ขึ้นรถ 2 แถว กลับไปที่บริษัท ไปเอารถกลับบ้าน

พอกลับมาถึงที่ท่าเรือ ก็นั่งรถ 2แถวที่บริษัทเตรียมไว้ให้ มาที่บริษัท แล้วก็ขับรถเตรียมกลับบ้านเลย แต่ก่อนกลับก็จะไปแวะหาอะไรกินสักหน่อย แล้วก็ไปซื้อของฝากด้วย

น่าเสียดายที่ร้านอาหารชื่อดังๆ หรือร้านอาหารที่ผมหามา ปิดหมดเลย เปิด บ่าย3 นู้น สุดท้ายก็เลยมากินร้านอาหารข้างทางเอา ราคาไม่แพงดี

ก่อนกลับบ้านต้องแวะกินอะไรก่อน และก็ซื้อของฝากด้วย

กู้เงิน ง่ายกว่าขอเงินเมีย

แวะกินอาหารที่ ร้านข้างทาง (ตอนแรกจะไปร้านดังๆ แต่ปิดหมดเลย)

สำหรับของฝาก ก็คงเป็นพวกอาหารทะเลแห้งนี่ล่ะ ง่ายดี ก็ไปซื้อที่ตลาดเทศบาลใจกลางจังหวัดตราดได้เลย มีอยู่หลายร้านให้ซื้อ

ตลาดเทศบาลตราด

เปิดทุกวัน (แล้วแต่ร้าน)
เปิด 04.00 - 20.00

จอดรถรอบๆตลาดได้เลย

คุณผู้หญิง เลือกซื้ออาหารอยู่

รู้สึกว่า แม่ค้า อยู่บนบรรลังเลย สูงเกือบ เมตร

สำหรับการไปตราดรอบนี้ เจอปัญหาสุขภาพแฟนนิดหน่อย ทำให้เปลี่ยนแผนเยอะ แล้วก็กลับบ้านเล็กกว่าที่คิด แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้วางแผนอะไรเยอะขนาดนั้นแต่แรกแล้ว (ปกติจะจองโรงแรมก่อนหน้า)

ที่ตราด ผมรู้สึกอาหารทุกอย่าง ออกหวาน ไม่รวมก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท พวกอาหารตามสั่ง อาหารทั่วไป ออกหวานนำทุกอย่างเลย สงสัยคนต่างชาติเยอะหรือเปล่าไม่รู้

ก็ขอจบการท่องเที่ยวบนเกาะกูดไว้ ณ ที่นี่เลยนะครับ ขอบคุณครับ
=============================
แนะนำ ติชม ได้ในคอมเม้นจ้า
=============================
รบกวนกด Like & Subscribe ด้วยนะครับ
Youtube >>> https://goo.gl/GnbgKJ
Fanpage >>> https://facebook.com/phungnim.panwasit
Instagram >>> https://www.instagram.com/panwasit
=============================
ขอบคุณมากครับ
=============================
คลิกด้านล่าง เพื่อไปเรื่องที่ใกล้เคียงกันได้เลยจ้า